ทำรักกับเธอ
สองร่างโผกอดเข้าหากัน
โหยหาและต้องการความรักมีค่าเหนือสิ่งอื่นใด
จูบเร่าร้อนแลกเปลี่ยนส่งผ่านเรือนร่างเปลือยเปล่ากอดก่ายโหยหากันไม่ผ่อนปรน
ลิ้นร้อนทำน้าที่แบคฮยอนตอบรับมันเต็มเปี่ยมหัวใจ
“พี่เร่าร้อนกับแบคฮยอนได้แค่ไหนกัน”
ชาลลี่หยินถามทั้งที่ร่างกายต้องการจนหยุดต่อไม่ได้
“เท่าที่พี่ต้องการ”
คำตอบก็คือการยอมรับ
รอยยิ้มในครานี้เต็มไปด้วยความหอมหวาน
เมื่อชายหนุ่มแทรกตัวเข้าหาก่อนจะบดเบียดส่วนกลางของความต้องการเข้าหาให้อีกคนรับรู้ให้ถึงมันว่าความต้องการของเขามากล้นเกินกว่าที่อีกคนจะรับไหวหรือไม่
“หลับตา” ชาลลี่หยินสั่ง
“ไม่!!” ร่างบางปฏิเสธพร้อมกับจิกเล็บลงที่หัวไล่กว้างของอีกคน
เขารู้ว่ามันถึงเวลาแล้วการกระทำและความต้องการของชาลลี่หยินแสดงออกมาอย่างชัดเจน
“งั้นก็ได้”
“อื้อ....อ่ะ”
ความเร่าร้อนรุนแรงสร้างความเจ็บปวดที่แสนสุข
ชาลลี่หยินแทรกกายเข้าหาโดยไม่ปลอบประโลมให้คนดื้อดึงได้ทันระวังตัว
แบคฮยอนบิดเร้าด้วยความเจ็บเพราะช่องทางรักนั้นยังไม่ได้ถูกกระตุ้นจากสิ่งใดชาลลี่หยินเอาแต่ใจทั้งที่บอกตั้งใจจะทำรักด้วยกันแต่กลับไม่ปราณีไม่ทำมันด้วยความรัก
“เป็นอะไร” ชายหนุ่มถามทั้งรอยยิ้ม ตนเองก็ทรมานเกินกว่าจะพูดออกไปได้
ช่องทางรักที่อุ่นร้อนบีบรัดเขาแน่น
“ฉันไม่พอใจ” แบคฮยอนกระชากเสียงน้ำตาซึมที่หางตา
“ทำไมไม่เรียกพี่” ชายหนุ่มยังคงเอาแต่ใจพร้อมขยับเคลื่อนไหวโดยไม่บอกกล่าว
สะโพกสวยเชิดรับเพื่อผ่อนคลาย
“ฉันไม่เรียก ออกไปนะ” เพราะความเจ็บปวดและความน้อยใจทำให้แบคฮยอนคิดที่จะต่อต้าน
ปากก็บอกจะทำรักและดูแล แต่ทำไมชาลลี่หยินถึงเอาแต่ใจตัวเอง
“อย่าดื้อกับพี่ พี่รักแบคฮยอน”
สองแขนแกร่งกดร่างบางที่กำลังดิ้น เขาตั้งใจทำให้แบคฮยอนรู้สึกเจ็บอยากสั่งสอนคนดื้อด้านให้ยอมเชื่อฟัง
แต่ดูเหมือนเด็กน้อยของเขาจะดิ้นรนและไม่ยินยอม
ไม้แข็งใช้ไม่ได้ก็คงต้องใช้ไม้อ่อนใจการจัดการ
“ออกไปชาลลี่หยินฉันเจ็บ” แบคอยอนร้องไห้
“แต่พี่ต้องการ”
“ฉันเจ็บ...คนโกหก”
“พี่กำลังสอนให้แบคฮยอนรู้ว่าอย่าดื้อกับพี่ พี่บอกให้หลับตา”
ชาลลี่หยินกระแทกเข้าหาอีกครั้งเพื่อสั่งสอน
“อ่ะ...อื้อออ ไม่!!”
ร่างกายที่เคลื่อนไหวไปพร้อมกับแรงอารมณ์ ชาลลี่หยินไม่ปราณีร่างบางที่นอนนิ่ง
แบคฮยอนถูกดักและกักไว้ทุกทางไม่ให้ดิ้นหนี
ช่องทางรักถูกกระแทกกระทั้นเข้าหาอย่างเอาแต่ใจ
เสียงครางทุ้มต่ำจากเรียวปากของชายหนุ่มมันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดี
แบคฮยอนเสียใจและเสียความรู้สึกเกินกว่าจะตอบรับ
“ร้องไห้ทำไม” ชายหนุ่มถามแต่ตนเองก็ยังไม่หยุดการกระทำทำแถมยังครางเสียงต่ำลอดมาให้ได้ยิน
“อย่ายุ่งกับฉัน”
ท่อนแขนเล็กปัดป่ายและดึงดันที่หน้าอกแกร่ง
แต่คนที่แรงเยอะกว่าก็จับที่ข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้แน่นก่อนจะกดมันลงกับเตียงใช้ริมฝีปากนกลงที่ซอกคอขาว
สูดหอมและดอมดมผิวขาวสร้างย้ำทำรอยรักให้เด่นชัด
“พี่รักแบคฮยอน”
ชายหนุ่มพูดมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้งที่ร่างกายยังเคลื่อนไหว “ฮืออออ... ฉันเจ็บ”
“เจ็บมากแค่ไหนกันถึงได้ร้องไห้แบบนี้” ปากก็ถามแต่การกระทำนั้นไม่หยุดนิ่งเลิกรา
“ฉันเจ็บชาลลี่”
“เรียกพี่ซิ”
“ชาลลี่หยิน!!”
แบคฮยอนขึ้นเสียงในขณะที่ท่อนแขนของเขาถูกตรึงไว้
หัวใจสลายไปพร้อมกับความหยาบโลนของการกระทำที่ไร้ซึ่งความรักดังที่ปากเอ่ย
หมดหนทางต่อสู้เรี่ยวแรงที่มากกว่า
ความเอาแต่ใจทำให้เขารู้สึกเสียดายความรู้สึกดีดีที่เคยมอบให้
มือเล็กที่ถูกกดอยู่กับเตียงถูกนิ้มมือใหญ่จับให้คลายออก ร่างกายยังคงเคลื่อนไหวเร่าร้อนพร้อมด้วยเสียงครางหวาน
ริมฝีปากร้อนหยอกเย้ากันกลีบปากบางที่กำลังเบะและร้องไห้
“พี่รักแบคฮยอน”
คนฟังเบือนหน้าหลีและหลับตา
ชาลลี่หยินใช้ริมฝีปากจูบไล่คราบน้ำตาที่ข้างแก้ม ก่อนที่มือหนาจะทำหน้าที่ตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย
มือขวาของชายหนุ่มที่อยู่ด้านบน สอดประครองไปที่นิ้วมือเรียวสวยข้างซ้ายของแบคฮยอน
กำมันเบาๆแต่ร่างบางไม่ตอบรับก่อนจะปล่อยออกพร้อมกับสอดโลหะสีเงินสลักลายลงไปช้าๆที่นิ้วนางบนมือเล็ก
ความเย็นของโลหะสีเงินสัมผัสกับผิวขาว แบคฮยอนสัมผัสถึงมันได้
ก่อนที่มือหนาคู่นั้นจะเปลี่ยนมาประครองช่วงเอวคอดให้แนบชิดมายิ่งขึ้น
“พี่รักแบคฮยอน”
ชายหนุ่มยังคงเน้นย้ำ
มือบางถูกยกขึ้นเพื่อเหลือบมอง แหวทองคำขาวสีเงินเงาฉลุลวดลายสวยประดับอยู่บนนิ้วนางบนมือช้ายของเขาเสียแล้ว
การดิ้นรน การต่อต้านคำพูดจาว่าร้ายจบลงเหมือนถูกหยุดเวลาไว้
“อึก!!!ชาลลี่ให้ฉันเหมือนที่ให้ผู้หญิงคนนั้น”
“พี่ให้แบคฮยอนคนเดียวมันเหมือนกับของพี่แบคฮยอนจะอยู่กับพี่เท่านั้น
เป็นของพี่เท่านั้น” มือหนาข้างซ้ายสอดประสานกับมือซ้ายของแบคฮยอน
แหวนทองคำขาวอีกวงลวดลายเดียวกันอยู่บนนิ้วมือของชาลลี่หยิน
“แบคฮยอนเป็นของพี่แล้ว พี่รักแบคฮยอนเหลือเกิน”
ริมฝีปากร้อนจูบลงที่แก้มขาว ร่างกายขยับเคลื่อนไหวไปตามแรงอารมณ์อีกครั้งแต่ในครานี้ร่างบางกลับไม่ร้องไห้ไม่ต่อต้าน
ผิวกายแดงก่ำและขยับตอบรับ
มีเพียงเสียงสะอื้นเบาๆและเสียงครางหวานเท่านั้นที่ดังลอดหู
วงแขนเล็กถูกยกวาดขึ้นโอบรอบคอแกร่ง กอดรัดร่างหนาให้แนบแน่นไม่ต่อต้าน
“ขอบคุณ”
“ขอบคุณที่รักฉัน...พี่ลี่” น้ำตาไหลอาบสองแก้ม
โอบกอดร่างหนาไว้
“ไม่เจ็บแล้วเหรอ”
ชายหนุ่มถามทีเล่นทีจริงทั้งที่สะโพกยังเคลื่อนไหว
“ไม่เลยซักนิดเดียว”
“แบคฮยอนคนดี...เรามาทำรักด้วยกันนะครับ”
ความสุขความรักความโหยหา
แรงกายขยับต่อเนื่องโอบกอดตอบรับ ในยามที่ชายหนุ่มเคลื่อนไหวรุนแรงร่างบางก็แอ่นสะโพกสวยเพื่อโต้ตอบ
ผิวกายที่เคยขาวแดงซ่าน พลิกตัวให้นอนคว่ำก่อนที่จะถูกสอดใส่ความต้องการ ตอบรับด้วยความเต็มใจมีความสุขกับรดชาดของความสุขอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัส
ต่างคนต่างมอบต่างคนต่างต้องการ
“อ่ะ....อื้อออ”
“อ่าส์แบคฮยอน”
“อื้อพี่ลี่”
“พี่รักแบคฮยอนให้มากกว่านี้ได้ไหม”
เสียงแหบพร่ากระซิบที่ใบหูขาวจากด้านหลัง
“อื้อ”
แรงอารมณ์พาทั้งคู่มาจนเกือบสุดทาง
การขยับที่เร่าร้อนกระแทกกระทั้นรุนแรงทำให้เลือดสีสดไหลซึมออกมาเล็กน้อย
เจ็บแต่สุขสมนั้นมันทำแล้วมีความสุข ยิ่งชายหนุ่มเร่งเร้ารุนแรงขึ้น
ร่างบางก็ยิ่งยอบรับให้แนบแน่น เสียงครางบ่งบอกถึงความพึงพอใจ ร่างกายกระตุกเกร็งเพราะใกล้แล้วที่จะถึงฝั่งฝันของความสุขแสนหวาน
“อ่าส์แบคฮยอน...”
“อ่า...พี่ลี่”
“อ่ะ”
ร่างกายกระตุกเกร็งไปพร้อมกับการปลดปล่อย
สองร่างล้มตัวลงนอนทาบทับผิวกายเต็มไปด้วยเหงื่อและการขอบหายใจที่รุนแรง
“ถ้าแบคฮยอนไม่ดื้อกับพี่ก่อน
พี่ก็คงจะสวมแหวนให้ดีดีไม่ต้องเจ็บตัว”
ชาลลี่หยินกล่าวพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนข้างๆกันกับร่างบาง
แบคฮยอนซุกหน้าลงกับหมอนด้วยความอาย
เขาแอบลอบมองแหวนที่นิ้วของชายหนุ่มสลับกับแหวนบนมือของตน แค่นี้น้ำตาก็พร้อมจะไหล
“ชอบรึเปล่า”
ชาลลี่หยินถามและคำตอบของแบคฮยอนคือการพยักหน้า
“รักพี่รึเปล่า” คำตอบนี้แบคฮยอนอายจนแทบจะซุกตัวลงไปกับหมอนใบใหญ่แต่ก็พยักหน้าเบา
“หายเหนื่อยรึยัง...พี่จะถอนทุนค่าแหวนต่อ”
แบคฮยอนยันตัวลุกขึ้นก่อนจะขึ้นคร่อมร่างหนาเอาไว้ยันแขนเล็กลงที่ไหล่กว้าง “ฉันจะจ่ายค่าแหวนให้พี่ทั้งคืน”
ริมฝีปากบางประกบจูบลงที่เรียวปากหนาออดอ้อนเอาใจ
“แหวนวงนี้มันแพงถ้าคิดจะจ่ายเป็นตัวละก็แค่คืนนี้ก็คงไม่พอ
แบคฮยอนต้องจ่ายให้พี่ตลอดไป”
เตียงนอนยับย่นบ่งบอกถึงความสุขที่มากล้นล้นของสองคน
ครั้งแล้วครั้งเล่าบอกรักออดอ้อนเอาใจส่งมอบความเร่าร้อนให้กัน จากเตียงนอนไปยังพื้นไม้เย็น
โซฟากว้างโต๊ะเครื่องแป้ง สถานที่ต่างๆยังคงเต็มไปด้วยความรักของทั้งคู่ที่ส่งมอบ
เปิดใจยอมรับ
แสดงความต้องการครอบครอง
ความรักของกันและกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น